ตำรวจลูกทุ่ง : ๓.ประตูสู่การสอบ

การอ่านหนังสือสอบ ก็เปรียบเหมือนการลงสมัครแข่งขันวิ่งมาราธอน ต้องซ้อม ต้องเตรียมตัว เพราะสนามแข่งขันในปัจจุบันทั้งสนามสอบแข่งขันเข้ารับราชการและสนามวิ่งแข่งมาราธอน มีการจัดการแข่งขันหลายครั้งในรอบปี ฉะนั้นแล้ว บุคคลที่ต้องการลงสมัครสอบแข่งขันเข้ารับราชการต้องมีการวางแผนสำหรับการเตรียมสอบ สำหรับฉันและเพื่อนที่สอบติดบรรจุเข้ารับราชการเกือบทุกคนมีการวางแผนเตรียมตัว บางคนวางแผนเตรียมตัวสอบระยะสั้นใช้เวลาเตรียมตัวสอบ 4 เดือนก่อนสอบ เขาบอกกับฉันว่าเขาลาออกจากงานประจำเพื่อรับจ้างพ่อกับแม่อ่านหนังสือสอบ หักโหมอ่านหนังสือตั้งแต่เช้ายันค่ำ สำหรับฉันและเพื่อนอีกหลายคนมีการวางแผนเตรียมตัวสอบเป็นปีปฏิทิน

คนเตรียมตัวสอบเพื่อเข้ารับราชการ ต้องเลือกสนามสอบที่ตนเองจะลงสอบเพราะแต่ละปีมีการเปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการหลายตำแหน่ง  เช่น สอบแข่งขันเป็นทหาร สอบแข่งขันเป็นตำรวจ สอบแข่งขันเป็นนิติกร ฯลฯ ผู้เตรียมตัวต้องศึกษาข้อมูลสนามสอบแต่ละสนามเพื่อประเมินความยากง่ายในแต่ละสนาม อย่างน้อยควรทราบวันเวลาสอบ วิชาสอบ  หลังจากนั้นประเมินตนเองว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน เมื่อตัดสินในว่าจะลงสนามสอบแข่งขันใดบ้างในรอบปี เช่น ผู้เขียนเตรียมตัวลงสมัครสอบ 3 ครั้ง ครั้งแรกต้นปีสอบคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ครั้งทีสองกลางปีสอบ ก.พ. ครั้งที่ 3 สอบแข่งขันเข้ารับการบรรจุเป็นข้าราชการท้องถิ่น หลังจากนั้นจึงเริ่มกำหนดกลยุทธ์ว่า ต้นปีสอบข้าราชการตำรวจต้องเตรียมตัวสอบแข่งขันอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ

การเตรียมตัวสอบเปรียบเสมือนการเตรียมตัวลงสนามวิ่งแข่งมาราธอนที่ต้องซ้อมวิ่งอยู่เสมอ นึกถึงเมื่อครั้งฉันสอบตำรวจครั้ง ฉันจำได้ว่าลาออกจากการเป็นพนักงานบริษัทเอกชนตำแหน่งผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ มาทำหนังสือพิมพ์พะเยารัฐอยู่บ้านเกิดควบคู่กับการทำงานเป็นลูกจ้างบัณฑิตอาสากรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ฉันละเลยการอ่านหนังสือเพื่อการสอบมายาวนานอีกทั้งมีเวลาสำหรับการเอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบน้อยมาก

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันสอบตก

สำหรับการเตรียมตัวสอบ “แรงบัลดาลใจ” เป็นสิ่งสำคัญที่สุด การเริ่มต้นเตรียมตัวสอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจ ควรละวางอคติต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ มองอาชีพรับราชการตำรวจเป็นอาชีพที่ดีหรือ “สัมมาอาชีวะ” สำหรับผู้เขียน การที่ตำรวจดีหรือไม่ดีต้องมองที่ตนเอง หากผู้เข้าสอบเป็นผู้ประพฤติปฏิบัติดีเมื่อสอบบรรจุแข่งขันเข้ารับราชการตำรวจย่อมเป็นตำรวจที่ดี ฉะนั้นแล้ว การที่ตำรวจจะดีหรือเลวเป็นเรื่องตัวตนของเราเอง

หลังจากนั้น จึงเริ่มตรวจสอบข่าวการรับสมัครสอบกองการสอบ กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อันเป็นแหล่งข่าวอันมีความสำคัญ ด้วยกองการสอบเป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการ ทำหน้าที่สรรหาบุคคลเข้ารับการบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจ

เว็บไซต์กองการสอบhttp://www.rcm.edupol.org/ เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่แจ้งข่าวความเคลื่อนไหวการรับสมัคร ด้วยข่าวการรับสมัครสอบตำรวจที่ถูกเผยแพร่ บางครั้งอาจเกิดความคลาดเคลื่อนหรือเป็นเพียงข่าวลือ การตรวจสอบข่าวและสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ต เป็นช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกล

WWW.Policeadmission.org เป็นเว็บไซต์สำหรับการรับสมัครสอบ เมื่อมีการเปิดรับสมัคร ผู้คนจำนวนมากเข้าสู่เว็บไซต์ บางครั้งต้องรอถึงช่วงเวลากลางดึก จึงสามารถสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ตได้

เมื่อถึงกำหนดวันสอบแข่งขัน ณ สนามสอบ เราจะพบกับ หนุ่ม-สาว ที่เตรียมพร้อมสำหรับการสอบมานาน ยิ่งเข้าสู่ยุคสมัยเศรษฐกิจไม่ดี การแข่งขันในสนามสอบตำรวจยิ่งเข้มข้น การรับราชการตำรวจมีค่าตอบแทนที่ดี มีสวัสดิการ เมื่อสอบติดเป็นนักเรียนในศูนย์ฝึกอบรม นักเรียนสามารถศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ปัจจุบันศูนย์ฝึกอบรมตำรวจทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับหลายมหาวิทยาลัย ขณะเรียนในศูนย์ฝึกอบรม นักเรียนตำรวจสามารถเรียนต่อจนจบปริญญาตรี ช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนสอบติดตำรวจคือเด็กเรียนเก่ง หลายคนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง

บริเวณหน้าอาคารสอบ ผู้เข้าสอบแต่งกายตามระเบียบการสอบ การสอบตำรวจผู้เข้าสอบต้องสวมเสื้อยืดไม่มีคอปก กางเกงวอร์มขายาว และสวมรองเท้ากีฬา ทั้งนี้เพื่อป้องกันการทุจริตในการสอบแข่งขัน เพราะในอดีตสนามสอบตำรวจเป็นสนามสอบซึ่งมีข่าวการทุจริตในการสอบมากที่สุด หน้าอาคารสอบมีกระดานแสดงแผนผังห้องสอบ ผู้เข้าสอบหลายคนมุงดูแผนผังห้องสอบ เพื่อดูว่าที่นั่งของตนเองว่า ที่นั่งสอบของตนเองอยู่ห้องสอบใด อาคารใด ชั้นไหน

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สำหรับบางคน การสอบบรรจุเข้ารับราชการ มีความหมายมากกว่าการแสวงหางานในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ เครื่องแบบสีกากีเป็นความฝัน หนุ่ม-สาว หลายคนทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อการสอบ บางคนยอมลาออกจากงานประจำเพื่อใช้เวลาอ่านหนังสือ

สำหรับฉันสิ่งสำคัญสำหรับการสอบแข่งขันคือสุขภาพ แม้จะอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงเข้าใจเนื้อหาอย่างถ่องแท้ มีความพร้อมทุกด้าน แต่หากช่วงเวลาเข้าห้องสอบร่างกายอ่อนแอป่วยไข้ ถือว่ายากมากในการประสบผลสำเร็จ ฉะนั้นแล้ว สุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ

สำหรับเทคนิควิธีการทำข้อสอบปรนัยของฉัน คือการพิจารณาคำตอบผิดเพื่อตัดตัวเลือกที่ผิดออกทีละข้อ จากนั้นจะเหลือคำตอบที่ถูก ซึ่งต้องพิจารณาเลือกคำตอบที่ถูกที่สุด ต้องพิจารณาอย่าตอบคำถามโดยไม่ใคร่ครวญให้ดี ข้อสอบข้อไหนไม่มั่นใจทำเครื่องหมายแล้วข้ามไปก่อนเพื่อรักษาเวลา ฉะนั้นแล้ว ผู้เตรียมตัวสอบควรฝึกหัดทำข้อสอบอยู่เสมอเพื่อสร้างความชำนาญ

ร.ต.อ.ทรงวุฒิ จันธิมา (กระจอกชัย)