เดินตลาด วาดเมือง “ชุมแสง” เล่าเรื่องด้วยบทกวีและภาพวาดโดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ

ตลาดร้อยปี
ฉันอยู่ชุมแสงตั้งแต่ปี 2521
อยู่นานกว่าบ้านเกิด
ยาวนานกว่าบ้านวัยเยาว์
เดินตลาดเช้าๆเย็นๆทุกวัน
ถ่ายภาพไว้มาก วาดรูปไว้เยอะ
เสียดายไม่เห็นค่า
ทิ้งขว้าง ไม่เก็บรักษา
บัดนี้สำนึก
ฉันเริ่มต้นวาดใหม่
ตั้งใจจะวาด
ทดแทนที่วาดมาทั้งหมด
ปลายปีนี้จะติดแสดง
ในตรอกเล็กตรอกน้อย
ตลาดเก่าร้อยปีเมืองชุมแสง
วาดชุมแสงให้ชุมแสงชม
พ.ย.- ธ.ค. 2566 นี้
จึงประกาศมาเพื่อซาบ

รัก ณ ชุมแสง
ตลาดชุมแสงอายุกว่าร้อยปี
ฉันอยู่มาค่อนชีวี
เดินตลาดเช้าๆเย็นๆมา 45 ปี
หากไม่มาเดินตลาดสักวันสองวันสามวัน
คนที่เคยพบกันจะถามว่าหายไปไหนมา
เคยเดินทางไกลไปนานหลายวัน
บางคนทักฉันนึกว่าป่วย
บ้างว่าแหมคิดว่าตายจากกันไปเสียแล้ว
ด้วยรักและผูกพัน
ลมหายใจและรอยเท้า
ไม่มีใครอาจมองเห็น
ฉันขอวาดเมืองชุมแสงไว้
ทุกมุมมองจากสายตาและหัวใจ

28 มิ.ย. 2566

มิได้สรรเสริญความรักบ่อย
เพียงคอยให้รักรื่นชื่นชมฉัน
ความดีไม่อยากทำเป็นสำคัญ
ปล่อยให้มันดีงามไปตามกรรม

รักษาศีลศิลปะเป็นปกติ
สมาธิเป็นไปเองบรรเลงร่ำ
ปัญญาอ่อนเหมือนแหวกว่ายในสายน้ำ
ไม่บอกรักความยุติธรรมไม่พร่ำเพ้อ

หลงรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
ไม่ตัดกิเลสพาตัณหาเผลอ
คอยเอาแต่ใจตนปรุงปรนเปรอ
นิพพานเออชาติหน้าค่อยว่ากัน

หลงรักเยาว์วัยในชรา
หน้าตาหล่อเหลาวัยเยาว์ฉัน
หลงรูปขายหน้าตาไปวันวัน
จนสามัญคืนสู่จุดสูงสุดเอง

จากฟ้าทิ้งดิ่งตนสู่ก้นเหว
ไม่สำเร็จไม่ล้มเหลวไม่อวดเก่ง
ไม่ถ่อมตน ไม่เจียมตัว ไม่กลัวเกรง
เตร๊งเตรงเตร่งเตร๊งเตรงบรรเลงกรรม

รักษาศีลศิลปะเป็นปกติ
สมาธิเป็นไปเองบรรเลงร่ำ
ปัญญาอ่อนเหมือนเด็กตาดำดำ
รินสายน้ำสะอาดใสแห่งวัยเยาว์

ภาพ : ชุดตลาดร้อยปี
พาสเทลส์ ปากกา ดินสอ บนกระดาษผิวเรียบ
ดช.กิตติศักดิ์ มีสมสืบวาด
27 มิ.ย.2566

เดินตลาด วาดเมือง
ตุ๋นยาจีน
ประนมมือถือศิลป์ศีล เช้าสร้างสรรค์
กระวีกระวาดวาดไหวไปวันวัน
ชั่วรอปลงน้ำซุปขั้นภัตตาคาร
ใส่รังถึงหนึ่งชั่วโมงอยู่โยงเฝ้า
สุขเศร้าอนิจจังสังขาร
ภายนอกภายในยาวนาน
การบ้านการเมืองเรื่องใด
มีเวลาพอชั่วรอซุป
คว้าปุบวาดปับฉับไหว
ก้าวหนึ่งภาพเพียงเพื่อใจ
ที่ก้าวมาไกลไม่เกรง
ศีลเป็นปกติ
สมาธิเป็นธรรมดา
ปัญญาเป็นไปเอง
เดินตลาด
วาดเมือง
ตุ๋นยาจีน
ถือศิลป์ศีล
เข้าวัตร
ปฏิบัติทำ
สวัสดียามเช้า
30 มิ.ย.2566

วาดค่ำ
จวนจะสิ้นแสงตะวันฉันยังวาด
พิรี้พิไรพิไลพิลาสมิหวาดไหว
มิหวั่นจะสิ้นแสงสาดเหมือนขาดใจ
วาดไว้ยามสนธยาจะลาจร
วาดไว้ยามชราจะลาล่วง
ดาวดวงจะใสสุกสโมสร
เยาว์วัยใจดรุณจะสุนทร
วาดไว้ก่อนมือจะล้านิ้วจะล็อก
กลอนลงคำตายเสียงยาก
แต่งต่อลำบาก ติ๊กต็อก

ภาพ: ตลาดร้อยปี ชุมแสง
พาสเทลส์ ปากกา ดินสอ
ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
29 มิ.ย.2566

ชายน์ ชุมแสง
ล้อหมุนจากเคหาเพลาสาย
ร้องเพลงชาย เมืองสิงห์บอกมิ่งขวัญ
“ พูดเป็นนัยนัยว่าพี่ต้องไปหลายวัน”
รำพันเพลงพร่ำเมื่อค่ำคืน
รุ่งเช้าเช็คสภาพยานพาหนะ
ไปสามวันนะจ๊ะแม่งามชื่น
อ้อละหนอลูกคอชายต้องกลายกลืน
มองเจ้ายืนโบกมือให้ใจละลาย
ออกจากบ้านถึงตลาดแวะวาดรูป
ลมวูบใจหวามเมื่อยามสาย
ป้ายปาดวาดส่งเดชอยู่เดียวดาย
ก่อนเดินทางสู่จุดหมายวาดเอาแรง
ขับรถพลางซ้อมร้องประคองเสียง
เอื้อนสำเนียงโยนไกวมิให้แกว่ง
จะเข้าห้องบันทึกเสียงเจรียงแจรง
นักร้องชื่อ “ชายน์ ชุมแสง” ขอฝากตัว
ใช่อยากดังอยากเด่นอยากเป็นดาว
แค่หาวก็เหนื่อยแท้แม่ทูนหัว
ชิงเมืองสายเร่งวาดรูปใจระรัว
ขอเพียงชั่วร้องเพลงจบได้พบกัน
ล้อหมุนจากชุมแสงเพลาสาย
ก้นปอดยอดชายก็ผายผัน
“แต๋นจ๋า พี่ต้องไปหลายวัน”
เพลงไม่คิดไม่ฝัน พร้อมบันทึก

ภาพ : อาคารเก่าสีเหลืองเมืองชุมแสง
พาสเทลส์ ปากกา ดินสอ ลุกลี้ลุกลนวาดไว้ ดั่งนี้ แลนา สวัสดียามสาย เดินทางไปเมืองกรุงประกอบกรรม เข้าสตูดิโอบันทึกเสียงร้อง “เพลงหมาหมา”* (*ชื่อเพลง)
20 มิ.ย.2566

ครุ่นคิด

ใครคนหนึ่งเฝ้าครุ่นคิด
หาถ้อยคำสำคัญ
ที่จะกล่าว
ขณะพยายามสดับฟัง
รอคอยใครสักคน
กล่าวถ้อยคำนั้น

แต่โลกฟุ้งฟายไปด้วยถ้อยคำไร้ค่า

ภาพ : ชุดตลาดร้อยปี
พาสเทลส์ ปากกาหมึกมี ปากกาหมึกหมด ดินสอบ้าง
บนกระดาษผิวเรียบ
26 มิ.ย.2566

เพลงที่ฉันรัก
เพลงหนึ่งที่ฉันพึมพำรำพึงเสมอ
ใครรู้จัก เคยฟัง
คุยกับฉันถึงเพลงนี้
กล่าวเนื้อเพลงมาสักวรรค
หรือเอ่ยชื่อเพลง
หรือนามผู้แต่งเพลงนี้
ฉันยินดีจะมอบภาพวาดนี้ให้เป็นที่ระลึกนะ

“ โลกยังคงหมุนต่อไป
หากแต่เมื่อโน้ตตัวสุดท้าย เงียบเสียงลง
เธอจะยังคงได้ยิน บทเพลงบทนั้นบรรเลง
ก้องอยู่ในหัวใจ กังวานอยู่ในความฝัน
ความทรงจำงดงาม ของเรา”


23 มิ.ย.2566 ภาพ : ตลาดเก่า
พาสเทลส์ ปากกา ดินสอ
วาดไว้ไหวๆไวๆ : ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
ภาพถ่าย : ศิรา สิลา

ชีวิตเป็นเหตุ ศิลปะเป็นผล
ดูแลดำรงชีวิตดีงามได้เพียงใด
ศิลปะงามดีได้เพียงนั้น
ศิลปะยกระดับจิตวิญญาณมนุษยชาติ
ไม่ใช่คำคมอะไร
ศิลปะมิได้ยกระดับจิตใจเรา
หากเราไม่เรียนรู้ขัดเกลาตน
จิตวิญญาณมนุษย์ยกระดับศิลปะ
ศิลปะเป็นผล
ชีวิตเป็นเหตุ
จึงผลเป็นเหตุ
จึงเหตุเป็นผล
28 มิ.ย.2566

ความคิดเห็น
พร่ำพล่อยมักง่าย
อวดฉลาดเกินรู้
กล้าเกินตัว
ดีเกินจริง
โลกฟุ้งฟายไปด้วยถ้อยคำไม่จำเป็น
กลบถ้อยคำสำคัญไปเสียสิ้น
การแสดงความคิดเห็น
ไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำเสมอไป

ภาพ : ตลาดเก่า
พาสเทลส์ ปากกา ดินสอ บนกระดาษผิวเรียบ
วาดไว้ก่อนค่ำ 25 มิ.ย.256

ศิลปะคุ้มครอง
มีเส้นสายและมีสี
ความสัมพันธ์อันดีเป็นไปได้
น้ำหนักแสงเงาเข้าใจ
เบาไปหนักไปรู้ผ่อนปรน
รู้จังหวะรู้กะระยะห่าง
รู้วางตำแหน่งแห่งหน
รู้เน้นชัดรู้ปล่อยจางไม่อับจน
มืดมน สว่างไสว ไม่หลงทาง
คนตรองครองตนบนทางศิลป์
ขจัดขัดแย้งสิ้นทุกบาดหมาง
กล่อมเกลากลมกลืนซ้าย ขวา กลาง
ในกรอบอันกว้างลึกไกล
ศิลปะปกป้องคุ้มครองฉัน
จะที่นั่นที่นี่หรือที่ไหน
หนัก เบา เข้ม จาง ฉันวางใจ
ภาวนาโลกภายในไร้สงคราม

ภาพ : ชุดตลาดร้อยปี พาสเทลส์ ปากกามีหมึก ปากกาหมดหมึก ดินสอบ้าง บนกระดาษผิวเรียบ

24 มิถุนายน 2566

ศักดิ์สิริ มีสมสืบ เล่าเรื่องด้วยบทกวีและภาพวาด