ค่ำคืนหนึ่งในฤดูหนาวฉันเงยหน้ามองท้องฟ้า ดวงดาวหลายดวงรวมกันอยู่เป็นกลุ่ม แปลกดีที่ค่ำคืนนี้ดวงดาวมิส่องแสงวิบวับเหมือนคืนก่อนๆ ฉันพยายามค้นความทรงจำเพื่อนึกถึงชื่อของดวงดาวเหล่านั้น เธอชื่ออะไรกัน ? กลุ่มดาวแอนดรอเมดา ,กลุ่มดาวนกฟีนิกซ์, กลุ่มดาวเข็มทิศ ฉันเงยหน้ามองพวกเธอมีรูปลักษณะเช่นไร ?

ฉันหลับตาในชั่วยามแล้วลืมตามองท้องฟ้าอีกครั้ง ฉันมองเห็นดวงดาวคันไถ ดาวลูกไก่ และดาวเหนือ มองเห็นตำแหน่งการจัดเรียงดวงดาวอันเป็นจุดแสงสว่างวางอยู่บนท้องฟ้า ในยามค่ำคืนฉันนอนลงแล้วยื่นมือเพื่อแตะท้องฟ้า ท้องฟ้าดูสว่างกว่ามือที่ยืนขึ้นไป มือของฉันเหมือนเงามืดในยามค่ำคืน บางครั้งฉันใช้นิ้วมือเพื่อวัดระยะห่างของดวงดาว บางครั้งปลายนิ้วของฉันก็สัมผัสบริเวณตำแหน่งของดวงดาวพอดี

สายลมเย็นเยียบทำให้ฉันต้องลดมือลง ฉันเก็บมือไว้ในเสื้อกันหนาวผืนหนา กาลเวลาเปลี่ยนแปลง ฤดูกาลเปลี่ยนหมุนวนเป็นห้วง (Loop) กลุ่มดาวยังคงเคลื่อนตำแหน่งจนลับขอบฟ้า บางค่ำคืนก็ยังถูกเมฆหมอกบดบังจนลับตา กระทั่งคืนหนึ่งพวกมันก็หมุนวนมาเจอเราอีกครั้ง นั่นทำให้เรารู้ว่า เวลาชีวิตของเราได้ผ่านเลย

สำหรับบางคนเวลาคือการเติบโต สำหรับบางคนเวลาคือห้วงสุดท้ายของชีวิต สำหรับบางคนเวลาคือเครื่องกำหนดให้เรากระทำบางสิ่งบางอย่าง นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมมนุษย์บนโลกใบนี้จึงต้องกำหนดเวลาให้ตรงกัน เพื่อกระทำบางสิ่งบางอย่างที่ตรงกัน เหมือนกัน หรือคล้ายกัน ความเหมือนจึงมิใช่สิ่งที่ทำลายความสร้างสรรค์ แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ในบางสิ่งบางอย่าง

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หน้าตาของฉันเหมือนพ่อแม่? เหมือนปู่ย่าหรือตายาย ? หรือหน้าตาของลูกหลานของฉันก็จะเหมือนกับฉันเมื่อเขาเกิดมาลืมตาดูโลกใช่หรือไม่? ฉันก้มมองนิ้วมือของฉัน มนุษย์เราล้วนมีนิ้วมือเหมือนกัน ต่างกันก็เพียงว่า นิ้วมือของฉันเพิ่งขยับได้และหายเป็นปกติเมื่อมินานมานี้

ค่ำคืนหนึ่งในคืนที่ท้องฟ้ามืดมิด ฉันใช้นิ้วมือของฉันสัมผัสกีตาร์ แต่ละนิ้วกดลงบนสายกีตาร์สร้างเสียงตัวโน๊ต แต่เพียงมินานนัก นิ้วมือข้างซ้ายทั้ง 4 นิ้วของฉันก็เกิดอาการปวด เจ็บปวดถึงกระดูก หลังจากนั้นมินานนัก ฉันก็ไม่สามารถขยับนิ้วมือได้อีก บทเพลงแห่งความเศร้าหยุดลง แต่ความรู้สึกที่เศร้าเสียใจกลับหลั่งออกมาอย่างท่วมท้น มันกลายเป็นน้ำที่หลั่งออกมาจากดวงตาหยดลงบนกีตาร์ที่อยู่ในอ้อมกอดของฉัน พวกเราล้วนร้องไห้ หลั่งความรู้สึกเศร้าเสียใจอยู่เสมอ เพียงแต่ความรู้สึกเศร้าเสียใจเหล่านั้น มิได้หลั่งออกมาเป็นน้ำตาเท่านั่นเอง

สำหรับบางคน พวกเขาร้องไห้ในความรู้สึกอย่างเงียบเชียบ บางคนกรีดร้องกราดเกรี้ยวเพื่อให้ความเศร้าเสียใจหลั่งไหลออกมา เมื่อทุกอย่างเงียบสงบลง เราถึงรู้ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาเป็นเพียงภาวะหนึ่งของมนุษย์ เป็นเพียงบทเพลงบันเลงเพลงหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ซึ่งจบลง

ฉันใช้ปลายนิ้วสัมผัสลงบนกีตาร์ คำว่า สเกล (Scale) โหมด (Modes) มิต่างอะไรจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน บางครั้ง เราใช้นิ้วมือสัมผัสลงบนเฟรตกีตาร์ตรงตามตำแหน่งตัวโน๊ตบนสเกลหรือโหมด เหมือนเราเอื้อมมือขึ้นไปแตะท้องฟ้า บางครั้งปลายนิ้วมือเราก็แตะลงบนดวงดาวที่สว่างไสว แต่บางครั้งปลายนิ้วมือของเราก็แตะลงบนจุดที่ท้องฟ้ามืดบอด แม้บางครั้งเราจะใช้ปลายนิ้วแตะลงบนตำแหน่งตัวโน๊ตที่ถูกต้อง แต่เสียงตัวโน๊ตก็ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน เช่นเดียวกับเวลาที่เราวางนิ้วมือไว้บนท้องฟ้าที่มีเมฆมืดครึ้มยามค่ำคืน

สำหรับฉัน ไม่จำเป็นที่ทุกครั้งเราจะต้องยืนมือใช้นิ้วสัมผัสตำแหน่งที่ถูกต้องตลอดเวลา ขอเพียงได้ยืนมือสัมผัสท้องฟ้า ได้มองเห็นกลุ่มดวงดาวที่ฉันไม่รู้จัก ได้เข้าใจอารมณ์ของชีวิตในห้วงเวลาแห่งฤดูกาล ได้สัมผัสความเหน็บหนาว เย็นเยียบ ร้อนผ่าว ได้มองเห็นแสงดวงดาววับวาวบนท้องฟ้า นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉันมีความสุขใจ

กระจอกชัย