ประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อนชื้นหรือภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา (Aw) เหมาะสมต่อการเติบโตของต้นไม้ใหญ่ ประวัติศาสตร์ในช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกไม้ไปยังต่างประเทศ โดยสัญญาสัมปทานจากบริษัทจากยุโรป เช่น  บริษัทบริติช บอร์เนียว (British Borneo Company,Ltd.) ,บริษัทบอมเบย์เบอร์มา (Bombay Burma Trading Corporation,Ltd.) , บริษัทสยามฟอเรสต์ (Siam Forest Company,Ltd.) และบริษัทอีสต์เอเชียติค (East Asiatic Co.) ของประเทศเดนมาร์ก คุณภาพของไม้ไทยจึงเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ

สำหรับการผลิตเครื่องดนตรีไทย ทำจากไม้ไทยเนื้อแข็งเพื่อให้ได้เสียงก้องกังวาล ส่วนเครื่องดนตรีสากล เช่น กีตาร์ เคยมีการทดลองทำเครื่องดนตรีจากไม้ไทยทั้งชิ้นพบว่า กีตาร์ที่ทำจากไม้ไทยให้เสียงที่แหลมพุ่ง

ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ความนิยมในการเล่นเครื่องดนตรีสากลสูงขึ้น ตามความนิยมการฟังดนตรีสากล เครื่องดนตรีประเภทกีตาร์ได้รับความนิยมสูงมาก สถาบันดนตรีเปิดสอนเล่นกีตาร์มีจำนวนมาก บริษัทผู้จำหน่ายเครื่องดนตรีสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น กลุ่มช่างซ่อมเครื่องดนตรีพัฒนาฝีมือจากช่างซ่อมสู่การเป็นช่างทำกีตาร์ มีการรับความรู้ (know how) จากยุโรป มีการศึกษา มีการทดลองวิจัยทำกีตาร์หลายประเภท มีการผสมผสานการทำกีตาร์จากไม้ไทยกับไม้ยุโรปเพื่อให้ได้เสียงที่มีเอกลักษณ์ นั่นส่งผลให้ คุณภาพกีตาร์ไทยถูกพัฒนาให้อยู่ในระดับแนวหน้าของเอเชีย

เขมณัฏฐ์ เกียรติไกรศร เจ้าของแบรนด์กีตาร์ Thai Thumb เล่าว่า ผมทำงานสอนดนตรีที่ Prart Musi หลังจากการทำงานผมก็ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการเรียนทำกีตาร์ ผมรู้จักครูสอนทำกีตาร์ท่านหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ใกล้บ้านชื่อว่า ณรงค์ ทาแก เวลาว่างท่านก็มาสอนกีตาร์ที่บ้านผม เมื่อสนิทคุ้นเคยจึงเริ่มสร้างแบรนด์กีตาร์ ตอนแรกพวกเราก็คิดว่าอยากทำกีตาร์เพื่อความสนุก เริ่มทดลองทำกีตาร์โดยโช้ไม้จากยุโรปร่วมกับไม้ไทย ผมนำกีตาร์ให้เพื่อนนักดนตรีซึ่งอยู่ในวงการดนตรีได้ทดลองเล่น หลังการทดลอง พวกเราพบว่า การผสมผสานระหว่างวัตถุดิบไม้ยุโรปกับไม้ไทยทำให้เกิดเสียงใหม่ มันเป็นการผสมผสานที่ลงตัว มีเอกลักษณ์ ผมกับครูสอนทำกีตาร์ก็เลยคิดว่า อยากทำกีตาร์แบรนด์ของตนเองจำหน่าย ตั้งชื่อแบรนด์ว่า TT custom

ไม้ไทยที่มีคุณภาพเหมาะสมกับการทำกีตาร์ เช่น ไม้ตะแบกลายเสือ (Bungor) ไม้ประดู่ (Burma padauk) ไม้ชิงชัน (Blackwood,Rosewood) ไม้พะยูง (Siamese Rosewood) ไม้ไทยหายากที่เหมาะสำหรับทำกีตาร์คือไม้ที่มีลวดลายสวยงามแปลกตา เช่น ไม้มะค่า (Makah/Asian afzelia) ไม้สะเหลา (Lagerstroemia loudonii) ไม้ไทยเป็นไม้เนื้อแข็งให้เสียงชัดเจน ช่างทำเครื่องดนตรีไทยจึงนิยมใช้ไม้ไทยทำเครื่องดนตรีไทย เพราะไม้มีความหนาแน่น มีเสียงใส ชัดเจน ยุคสมัยก่อน ช่างทำกีตาร์คนไทยใช้ไม้ไทยทำกีตาร์แต่กีตาร์ให้เสียงแหลมพุ่ง จึงไม่ได้รับความนิยม นอกจากนั้น ไม้ไทยเป็นไม้เนื้อแข็งมีน้ำหนักมาก การทำกีตาร์จึงต้องมีการผสมผสานกับไม้ยุโรปซึ่งมีน้ำหนักเบาเพื่อให้เกิดเสียงที่สมดุล และทำให้เกิดลวดลายของกีตาร์ที่แตกต่าง

สำหรับเรื่องความนิยมในเสียง ถ้าอยากได้เสียงแบบ Fender คุณต้องซื้อ Fender อยากได้เสียงแบบ Gipson คุณก็ต้องซื้อ Gipson แต่ถ้าอยากได้เสียงกีตาร์ที่มีคุณภาพ เสียงมีเอกลักษณ์เฉพาะแบบไทยต้องใช้ TT custom กีตาร์คุณภาพนำเข้าจากต่างประเทศวางขายในประเทศไทยราคาไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท หากสั่งไม้จากต่างประเทศมาให้ช่างไทยเป็นคนทำกีตาร์ มีราคาไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท แต่ในความรู้สึกของคนไทยกีตาร์ทำจากไม้ไทยมีราคาแพง นั่นส่งผลให้ TT custom ต้องปรับรูปแบบธุรกิจจากการทำกีตาร์ สู่การเป็นโรงเรียนสอนทำกีตาร์ หรือ Thai Thumb Guitar Academy

เราทำกีตาร์มานานพอสมควร พวกเราเริ่มขยายไลน์สู่การเป็นโรงเรียนสอนทำกีตาร์ เพราะต้นทุนการผลิตกีตาร์สูงมาก กีตาร์หนึ่งตัวราคา 50,000 – 70,000 บาท วัตถุดิบไม้ต้องมีการบ่ม ต้องมีการเก็บรักษาไม้ แม้ว่าจะมีกลุ่มคนต่างชาติให้ความสนใจ แต่กลุ่มเป้าหมายหลักของเราคือคนไทย เราจึงตัดสินใจเปิดโรงเรียนสอนทำกีตาร์โดยคิดค่าเทอมเพียง 20,000 บาท ค่าเรียนสามารถผ่อนจ่ายเป็นงวด หลังเรียนจบหลักสูตร นักเรียนจะได้กีตาร์ 1 ตัว มีวิชาชีพติดตัว สำหรับวัตถุดิบในการทำกีตาร์ นักเรียนสามารถเจรจาซื้อขายกันเป็นพิเศษในกลุ่มโซเชียล สำหรับการเรียนต้องมีครูคอยควบคุมอย่างใกล้ชิดเพราะเครื่องมือทำกีตาร์บางชิ้น เป็นเครื่องมืออันตราย ต้องมีการควบคุมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเรียนการสอน

ยุคสมัยก่อน ช่างทำกีตาร์คนไทยนำไม้ไทยมาทำกีตาร์กันเยอะมาก แต่เสียงกีตาร์แหลมเกินไป การผสมผสานไม้ไทยกับไม้ต่างประเทศจึงเป็นทางออกที่ลงตัว ส่วนอุปกรณ์ฮาร์ทแวร์ควรมีมาตรฐาน เลือกอุปกรณ์ฮาร์ทแวร์ที่มีคุณภาพ เสียงก็จะออกมาสากลและมีความเป็นไทย ผมมีเพื่อนเป็นนักดนตรีในวงการดนตรีของเมืองไทย เขาใช้กีตาร์ TT ศิลปินที่เป็นซิกเนเจอร์ให้กับ TT  มีหลายท่าน ฉะนั้น อย่าตัดสินว่า ไม้ไทยมีคุณภาพต่ำกว่าไม้ต่างประเทศ กีตาร์แบรนด์ที่ได้รับความนิยมก็ใช้ไม้พื้นถิ่นในประเทศของเขา ไม้ต่างประเทศราคาแพงเพราะค่าขนส่ง ภาษี ถ้าเราส่งออกไม้ไทยให้กับต่างประเทศ ไม้ไทยก็ต้องมีราคาแพง