เมื่อ 70 ปีก่อน “บ้านหม่อน” คือคลังเก็บสินค้า ใบเมี้ยง ใบยาสูบ เกลือ เสื้อม่อฮ้อม ชาวบ้านสามารถหาซื้อสินค้าหลายประเภทได้ที่ร้านบ้านหม่อน กาลเวลาผ่านเลยถึงยุค ประเทศไทย 4.0 ร้านบ้านหม่อนอันเก่าแก่ปิดการขายประเภทใบเมี้ยงใบยา แต่หันมาทำธุรกิจดิจิตอล “บ้านหม่อน” กลายเป็น Digital market place หรือตลาดนัดดิจิตอล อันเป็นศูนย์กลางการชำระเงินค่าสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ
นางสาวณัฏฐณิชา จันธิมา อายุ 31 ปี เจ้าของร้าน “บ้านหม่อน” เปิดเผยกับ “พะเยาบิสซิเนส” ว่า เริ่มทำธุรกิจผ่านโทรศัพท์มือถือเมื่อสองปีก่อน โดยโหลดแอพพลิเคชั่นโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ เก็บค่าบริการครั้งละ 50 บาท หลังจากนั้นก็มีคนใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ
มองอย่างผิวเผินร้าน “บ้านหม่อน” เป็นเพียงร้านขายน้ำหวานร้านขายกาแฟธรรมดา แต่สำหรับลูกค้าซึ่งเคยใช้บริการ “บ้านหม่อน” เป็นพื้นที่ธุรกิจดิจิตอล (Digital market place) ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Digital banking) การชำระค่าบริการอื่นผ่านมือถือ (Mobile Payment)
“บัญชีเงินฝากสำหรับโอนเงินมี 3 บัญชี คือ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ลูกค้าแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มวัยรุ่นซื้อขายของทางอินเทอร์เน็ต กลุ่มผู้สูงอายุโอนเงินค่าศึกษาเล่าเรียนบุตรหลาน”
กลุ่มวัยรุ่นชอบเลือกซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์ลาซาด้าhttps://www.lazada.co.th/ เว็บไซต์ชอปปี้ https://shopee.co.th หรือทางเครือข่ายโซเชี่ยลมีเดี่ย เฟสบุ๊ค facebook ทวิสเตอร์ twitter แต่กลุ่มวัยรุ่นส่วนมากไม่มีบัญชีธนาคารเป็นของตนเอง บางคนมีบัญชีธนาคารแต่ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกรรมทางการเงิน การนำเงินสดมาที่ร้าน “บ้านหม่อน” โดยเสียค่าบริการเพียง 50 บาท แต่สามารถโอนเงินได้สะดวกรวดเร็วจึงเป็นที่นิยม
สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มคนที่ต้องโอนเงินเป็นประจำอยู่ทุกเดือน พวกเขาต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อโอนเงินค่าศึกษาเล่าเรียนของบุตรหลาน “บ้านหม่อน” สามารถตอนสนองความต้องการโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างรวดเร็ว กลุ่มผู้สูงอายุสามารถลดรายจ่ายค่าเดินทาง เพียงนำเงินสดเดินทางมาร้าน “บ้านหม่อน” ก็ดำเนินการโอนเงินผ่านบัญชีได้ทันที เสียค่าบริการเพียง 50 บาทต่อครั้ง โดยช่วงเปิดเทอมกลุ่มผู้สูงอายุเดินทางมาโอนเงินคิดเป็นยอดเงินกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน
สำหรับการชำระค่าบริการทางโทรศัพท์มือถือ (Mobile Payment) มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนเงินเฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทต่อเดือน ส่วนบริการเติมเงิน “วันทูคอล” ยังเป็นเครือข่ายยอดนิยม เติมเงินสูงสุดคิดเป็น 75 % เครือข่าย “ดีแทค” 10% เครือข่าย “ทรู” 10% ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา MY CAT เป็นเครือข่ายที่มียอดเติบโตสูงสุด เดือน มีนาคม 2561 มีคนเติมเงินเพิ่มขึ้นกว่า 20 ราย
นางสาวณัฏฐณิชา จันธิมา เจ้าของร้านบ้านหม่อน 0801290635
